ความเป็นมาของศูนย์

​     ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายสินธุ์แพรทองเน้นการรวมตัวของกลุ่มองค์กรชุมชนภายในตำบลลำสินธุ์

เมื่อปีพุทธศักราช2544มีวัตถุประสงค์ในการรวมตัวกัน เพื่อต้องการแก้ปัญหาเรื่องปัญหาสาธารณะด้วยตนเอง โดย กำหนดพื้นที่ระดับตำบลเป็นตัวตั้งใช้องค์กรชุมชนในการขับเคลื่อน คนทั่วไปรู้จักกันในนามเครือข่ายสินธุ์แพรทอง ในปีพุทธศักราช 2547 เครือข่ายสินธุ์แพรทองจดทะเบียนเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์กับกระทรวง พัฒนาทางสังคมความมั่นคงของมนุษย์ โดยศูนย์เรียนรู้เครือข่ายสินธุ์แพรทองมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาศักยภาพ ของคนเป็นหลัก พัฒนาคนให้มีสติ มีปัญญาและมีคุณธรรม สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปแก้ปัญหา สาธารณะโดยตัวของตนเองได้ ซึ่งปัญหาสาธารณะของคนในชุมชน คือ เรื่องผลผลิต เมื่อออกผลผลิตชาวบ้าน ไม่มีวิธีจัดการกับผลผลิต ผลิตเป็นแต่ขายไม่เป็น ปัญหาอีกหนึ่งเรื่อง คือ กลุ่มองค์กรที่เกิดขึ้นมากมายไม่ สามารถบริหารจัดการการเงินของตนเองได้ ไม่มีทักษะในการบริหารจัดการ ปัญหาอีกเรื่อง คือ ที่ทำกิน ชาวบ้านมีแค่ที่ทำกินแต่ไม่มีสิทธิไปอยู่ในเขตอนุรักษ์ เขตป่าไม้ เขตรักษาพันธุ์นี้ คือ อีกหนึ่งปัญหาสาธารณะ ของชาวบ้าน เมื่อปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แกนนำมีความเห็นว่าเมื่อชาวบ้านมีการนัดคุยทุกวันที่ 9 ของเดือน ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2544 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการประชุม อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดเครือข่ายขึ้น ประมาณปีพุทธศักราช 2546 ถึงปีพุทธศักราช2547หน่วยงานจากภายนอกเข้ามาพูดคุยว่าการดำเนินงานแบบนี้คือเครือข่ายองค์กรชุมชนหลังจากนั้นจึงได้จดเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์เน้นเรื่องการพัฒนาคนแก้ปัญหาสาธารณะมาอย่างต่อเนื่อง ปีพุทธศักราช 2550 มีพื้นที่ รูปธรรมแก้ปัญหาสาธารณะ มีการแปรรูปกล้วย พริก สามารถไปส่งเสริมให้ชาวบ้านเกิดการเรียนรู้ เข้าใจ และ สามารถออกโฉลดให้กับผู้เดือตร้อนได้บางส่วน ประมาณ 2,000 ถึง 3,000 ไร่ มีหน่วยงานภายนอกเข้ามาเห็น จึงยกให้ที่นี่เป็นศูนย์เรียนรู้ เมื่อใช้เป็นศูนย์เรียนรู้แต่ก็ยังมีการใช้กลไกเดิมในการดำเนินงาน

 วิสัยทัศน์

     คนมีคุณภาพ มีคุณธรรม ชุมชนแห่งการเรียนรู้

เป้าหมาย

     กลุ่มองค์กรเข้มแข็ง ครอบครัวอบอุ่น สังคมตำบลน่าอยู่

​

วัตถุประสงค์

     เพื่อแก้ใขปัญหาสาธารณะภายในชุมชนโดยชุมชน กำหนดพื้นที่ระดับตำบลเป็นตัวตั้งใช้องค์กรชุมชน เป็นแกนในการขับเคลื่อนงาน

​

พันธกิจ

  -หนุนเสริมการทำงานแบบบูรณาการ

  -หนุนเสริมให้เกิดการพัฒนาระดับคุณธรรม จริยธรรมชุมชน

  -หนุนเสริมการยกระดับความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของชุมชน

  -หนุนเสริมยกระดับกลุ่มองค์กรให้เข้มแข็งและพึ่งตนเองได้

  -หนุนสริมให้จัดการองค์ความรู้เป็น.

หลักสูตรการเรียนรู้ที่มีอยู่อย่างเป็นระบบ

​

​

​